|
|
|
|
|
1. ) วิธีการจดทะเบียนการได้มาประเภทมรดก |
|
|
|
1. ) ให้ผู้ได้รับมรดกนำหลักฐานสำหรับที่ดินหรือหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน นส.3 |
|
|
พร้อมด้วยหลักฐานในการรับมรดก เช่น พินัยกรรม มรณบัตร สูติบัตร สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัว |
|
บัตรประจำตัวประชาชน ไปยื่นขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หากหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินอยู่กับบุคคลอื่น |
|
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเรียกมาได้ |
|
|
|
|
|
2. ) ให้ผู้ขอรับมรดก ยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานต่างๆ ดังกล่าวในข้อ 1 ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ |
|
|
|
|
|
3. ) พนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนพยานหลักฐานและหากเชื่อว่าผู้ขอเป็นทายาทก็จะประกาศการขอรับมรดก |
|
นั้น 60 วัน แม้เป็นการโอนมรดกตามพินัยกรรมก็ต้องประกาศด้วยเว้นแต่มีการจดทะเบียนตั้งผู้จัดการมรดก |
|
ตามคำสั่งศาลก่อนแล้ว และผู้จัดการมรดกโอนต่อให้ทายาทไม่ ต้องประกาศ ประกาศนั้นให้ติดไว้ที่อำเภอ |
|
สำนักงานที่ดิน ที่ทำการกำนัน บริเวณที่ดินแห่งละ 1 ฉบับ ส่งประกาศให้ทายาททุกคนที่ผู้ขอแจ้งว่าเป็น |
|
ทายาททราบเท่าที่จะทำได้ |
|
|
|
|
|
4. ) ถ้าไม่มีผู้โต้แย้ง ก็ให้จดทะเบียนโอนมรดกให้แก่ทายาทตามที่ขอ |
|
|
|
|
|
5. ) ถ้ามีผู้โต้แย้ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนคู่กรณีแล้วเปรียบเทียบประนีประนอมกันหากไม่ตกลง |
|
ให้เจ้าหน้าที่สั่งการไปตามที่เห็นสมควรแล้วแจ้งคู่กรณีทราบ ผู้ที่ไม่พอใจให้ไปฟ้องศาลภายใน 60 วัน |
|
นับแต่ทราบคำสั่ง ถ้ามีการฟ้องศาลให้พนักงานเจ้าหน้าที่รอเรื่องไว้ก่อน เมื่อศาลพิพากษาจึงดำเนินการ |
|
ตามที่ศาลสั่ง |
|
|
|
ถ้าไม่ฟ้องภายในกำหนดให้ดำเนินการไปตามที่พนักงานเจ้าหน้าที่มีคำสั่ง
|
|
|
|
ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนโอนมรดกถ้าเป็นการรับมรดกระหว่างบิดา มารดา บุตร สามี |
|
เสียค่าธรรมเนียมร้อยละ 50 สตางค์ ของจำนวนทุนทรัพย์ ไม่ต้องเสียค่าอากร |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
.............................................................................................. |
|
|
|
|
|
|